Masquerade จอมกษัตริย์เกาหลี

ภาพยนตร์ เรื่อง ‘Masquerade จอมกษัตริย์เกาหลี’

Image

ว่ากันว่า เป็นเรื่องเล่าของ 15 วันที่สูญหายไปจากประวัติศาสตร์ ของ องค์ชายควางแฮกุน พระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ แห่งเมืองโชซอน ซึ่ง 15 วันนี้ ไม่มีการปรากฏใดๆอยู่ในบันทึก ซึ่งโดยปกติแล้ว ทุกสิ่ง ทุกความเคลื่อนไหว ของพระมหากษัตริย์จะถูกบันทึกไว้ไม่ขาด ตกหล่น

ที่ได้ดูเรื่องนี้ มีเหตุปัจจัยหลายอย่าง อย่างแรก เป็นคนชอบดูภาพยนตร์ย้อนยุค โดยเฉพาะย้อนยุคของเกาหลี เพราะพอทำออกมาเป็นภาพยนตร์แล้ว จะดูสมจริง อลังการ(มากกกกกกก) ต่อมาคงจะเป็นเพราะ ฮันฮโยจู มีบทบาทในการแสดงด้วย (ชอบมาก > <) ก็เลยตามมาดู เลยเริ่มหาข้อมูลเล็กๆน้อยของหนังก่อนที่จะดูก่อน เพราะตอนนั้นเริ่มที่จะอยากดู แต่ไม่มากเท่าไหร่ ไปเจอกับข้อความที่กล่าวประมาณว่า “ได้รับรางวัล Daejong 15 สาขา” อุบ๊ะ! ตอนนั้นคิดได้แค่ว่า จะต้องดู ว่าดีจริงมั้ย ประมาณว่าพิสูจน์ความจริง ว่าเป็นอย่างที่เค้าบอก และสมกับจำนวนรางวัลที่ได้มารึป่าว

Image

Image

เรื่องราวก็ประมาณว่า พระราชาอยากหาคนที่หน้าตาเหมือนกัน มาเป็นตัวตายตัวแทน (จะว่าอย่างนี้ก็ได้) เพราะเหตุการณ์ในตอนนั้นไม่ปลอดภัยสำหรับชีวิตพระองค์เอง แล้วเรื่องไม่คาดหมายก็เกิดขึ้น เมื่อพระราชาตัวจริงโดนวางยาพิษ เกือบปางตาย จึงให้หมอหลวงพาไปรักษานอกวังหลวง ทางคนสนิทกลับบอกแค่ว่าพระราชาป่วย แล้วรีบไปพา ‘คนหน้าเหมือน’ มาเป็นพระราชาชั่วคราว และนี่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราว คิดดูสิว่า คนสามัญชน จู่ๆกลับกลายมาเป็นพระราชา ปกครองประเทศ เรื่องนี้มีคนรู้เพียงไม่กี่คน และผลลัพธ์ที่ออกมา ส่งผลให้ตัวละครบางตัวยอมที่จะทำเพื่อ ‘เค้าคนนั้น’

จากที่ได้ดูแล้ว ก็ไม่มีความว่าผิดหวังเลยจริงๆ บทบาทที่ถูกวางไว้ ความเหมาะสมของนักแสดง เหตุการณ์ที่พาไปให้เกิดอีกเหตุการณ์ตามลำดับ ด้วยความมีเหตุและผลที่สมควรจะเกิด เซอร์ไพรส์อีกมากมายที่ถูกรวมไว้ ณ ภาพยนตร์เรื่องนี้ มีคำพูที่ประทับใจมากๆ ประโยคหนึ่ง ซึ่งตัวเอกได้กล่าวไว้กับองครักษ์ ตอนที่เกือบจะถูกจับได้ เมื่อองครักษ์คิดว่าตนเข้าใจผิด จึงรีบเอาดาบชี้คอตัวเอง เพื่อจะปลิดชีพ แต่พระราชาตัวปลอมก็ได้ช่วยไว้ จากนั้นก็ตั้งคำถามไปว่า

 “องครักษ์ เจ้าทำอะไรผิด”

“กระหม่อมบังอาจสงสัยพระองค์”

“ไม่ใช่!”

“กระหม่อมบังอาจชี้ดาบไปที่พระองค์”

“ไม่ใช่!”

. . ไร้ซึ่งเสียงจากองครักษ์ . .

พระราชาตัวปลอมจึงได้กล่าวว่า

“การชี้ดาบไปที่ตัวเอง นั่นถือเป็นการทรยศ. . เจ้าต้องมีชีวิตอยู่ เพื่อให้ข้าได้มีชีวิตอยู่. . ข้าวต้มถั่วเป็นยังไงบ้าง? หากเจ้าตายไป ก็ไม่อาจรับรู้รสชาตินั้นได้อีก ”

แล้วก็เดินจากไป . .

เพียงประโยคเท่านี้ ทำให้องครักษ์ถึงกับหลั่งน้ำตาออกมา และท้ายที่สุด องครักษ์ผู้นี้ก็ได้ใช้ชีวิตเฮือกสุดท้าย เพื่อพระราช ‘ตัวปลอม’ รวมถึงคนสนิทที่สุดของพระราชาตัวจริง ก็ยังอยู่ฝ่ายพระราชาตัวปลอม . .

 Image

          สิ่งที่เกิดขึ้น อันเนื่องมาจากความเป็นสามัญชน ที่มีอยู่ในตัว เป็นตัวผลักดันให้กระทำสิ่งต่างๆ ในเชิงคุณค่าความดี แบบซื่อๆ เพราะภายในวังหลวง แท้จริงนั้นเหมือนสงครามย่อยๆที่เหล่าขุนนาง รวมถึงพระราชาเอง ยังต้องร่วมการทำสงครามที่ไม่อยู่ในรูปแบบ แต่ต้องรู้สึกถึงเองได้เท่านั้น ตัวละครมีชีวิตชีวา เห็นอกเห็นใจ มีน้ำใจ ทำตามความคิด และมีคำพูดรวมทั้งพฤติกรรมที่หาได้ยากจากบรรยากาศตึงเครียดต่างๆ เป็นทั้งสีสัน เป็นตัวหลักของเรื่องได้อย่างดี ภาพยนตร์เรื่องนี้มีครบทุกรสชาติ ทั้งเศร้า ต่อสู้ ความรัก ตลก ปะปนโดยทั่วทั้งเรื่อง ซึ่งในตอนท้าย สามารถเรียกน้ำตาได้เป็นถังๆ (โฮกกกกกกกกก) คือไม่ได้เศร้าเพราะเสียใจ แต่เป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก น้ำตามันก็ไหลได้เอง อาจจะเกิดเพราะการซาบซึ้งถึงตัวละคร ที่มีความพิเศษ เป็นเหมือนสิ่งกระตุ้น คล้อยตาม รึจะอะไรก็แล้วแต่ คอนเฟิร์มว่าสนุกม๊ากกกกกกกกกกกกกกกก! > < ต้องดูให้ได้นะ พลาดแล้วจะเสียใจ!

“ความเห็นส่วนตัวล้วนๆ ไม่อิงตัวแสดงแทน อยากรู้ว่าเป็นยังไง ต้องดูค่ะ ต้องดูให้ไดดดดดด้ ~”

Masquerade Official Main Trailer w/ English Subtitles

http://www.youtube.com/watch?v=1TnfM5XWOtI

#เรื่องนี้ดูเมื่อ 06 / 12 / 12

ใส่ความเห็น